วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554

พัฒนาการเรืองตัด ๆ แปะ ๆ

โชกุนมีพัฒนาการมากขึ้นเรื่องตัดกระดาษ และแปะกระดาษและสามารถนำมาสร้างเรื่องราวได้ จากจินตนาการตัวเอง เช่น ตัดกระดาษรูปนั้นรูปนี้เเล้วพยายามบอกว่านี่คืออะไร กิจกรรมนี้ ม่าม๊าตัดรุปทรงสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยมเเล้วนำมาประกอบกันเป็นบ้าน โชกุนสามารถทำตามได้โดยไม่ต้องบอกทำตามจากการสังเกตุ ภาพโดยรวมเรามีเหมือนกันคือบ้าน และท้องฟ้า ซึ่งสังเกตุได้ว่าโชกุนยังติดรูปบ้านกลับห้วอยู๋เนื่องจากทำตามจากฝั่งที่เห็นม่าม๊าติดแตว่าพอประกอบๆ กันเเล้วอย่างอื่นติดถูกฝั่ง (ตอนหลังรู้ว่าของตัวเองผิดฝั่งมีมาขอเปลี่ยน) และโชกุนขอทำวัว หมา เครื่องบินเพิ่มโดยให้ม่าม๊าช่วยตัดแล้วโชกุนระบายสีเพิ่มเติม














วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

art art

ช่วงอาทิตย์นี้ เราสองคนทำกิจกรรมศิลปะที่ใหม่ ๆ กันทำให้โชกุนชอบมากกว่าเดิมสนุกมากว่าเดิม เรามาวาดรูประบายสีกันบนกระจก ใบตอง ที่สวนหลังบ้าน มาดูภาพกัน


ม่าม๊าการที่ปล่อยให้เด็กได้ระบายสีในส่ิงที่นอกเหนือจากกระดาษทำให้เด็กตื่นตัวมากขึ้น และมีความสนุกมากขึ้น ได้คิดนั้นคิดนี่เอง สนุกไปกับจินตนาการของตัวเอง และแถมเป็นสิ่งที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้เช่น กระจกก็ลบใหม่ระบายใหม่ได้ ส่วนใบตองก็ย่อยสลายไปไม่เป็นขยะรกบ้าน ไอเดียนี้ชอบๆ ทำต่อแน่นอน




วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

คำว่า จินตนาการไม่สร้าง ขอได้โปรดอย่ามาทำลาย

จินตนาการ ผู้ใหญ่หลายคนอยากจะสร้างจินตนาการให้เด็ก กันทั้งนั้น แต่ว่าวิธีการที่จะสร้างจินตนาการนั้น ใช่ว่าจะง่าย เห็นส่วนใหญ่เหมือนจะสร้างจินตนาการ กลับกลายเป็นทำลายซะมากกว่า อยากให้ผู้ใหญ่เปิดใจรับฟังเด็กบ้างจังเลย บางคนเด็กวาดรูปพอเด็กบอกว่าวาดรูปนี้ ไม่เหมือนก็ทำร้ายเด็กว่า นั้นนะเหรอ สมมติว่าเด็กวาดเครื่องบิน (ไม่มีทางที่เด็กสองสามขวบจะวาดเครื่องบินได้เป็นเครื่องบิน หรือเด็กจะวาดสิ่งใด ๆในโลกได้เหมือนกับความเป็นจริง ) แต่ว่าเครื่องบินมันอยู่ในสมองเค้าเเล้ว เค้าคิดจินตนาการไว้เเล้ว แต่ว่าผู้ใหญ่มากมายหลายคน ก็มักจะบอกว่า นี่นะเครื่องบิน เครื่องบินอะไรทำไมไม่มีปีก ไม่มีล้อ (บ้าง)หลากหลายคำวิพากษ์วิจารณ์ ทำไม สร้างคำถามที่เป็นในเชิงสร้างสมองให้กับเด็กหน่อยจะได้หรือไม่ เช่น โห ไม่เคยเห็นเลยนี่คือเครื่องบินรุ่นใหม่เหรอนี่บอกหน่อยครับตรงไหนเรียกว่าอะไรบ้าง (คือตื่นเต้นไปกับสิ่งที่เค้าทำบ้าง) จะได้มีแรงใจไม่ใช่ โหย ไม่สร้างจินตนาการเเล้วยังจะมาทำลาย บางคนทำร้ายมากกว่านั้น มาวาดไม่เหมือนใช่มะ มาจับมือวาดนะ ได้โปรดปล่อยเค้าเถอะปล่อยให้เค้าได้ฝึกคิดฝึกกล้ามเนื้อมือของเค้าให้มันสัมพัมธ์กันเองอยากจะวาดไรวาดไป บอกมาว่าวาดอะไร

ไม่ว่าลูกจะวาดรูปอะไรก็ตามในความคิดม่าม๊าลูกวาดได้สุดยอดมากม่าม๊าอยากรู้ตลอดว่า ทำไมมันมีอะไรบ้างในรูป ม่าม๊าไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์รูปของโชกุนที่โชกุนวาดเลย และไม่เคยต้องการให้โชกุนวาดรูปให้เหมือน มันจำเป็นด้วยเหรอที่รูปของเราต้องเหมือนกับของคนอื่น และไม่เคยเลยที่โชกุนต้องระบายสีให้อยู่ในกรอบที่เค้ากำหนดนะห้ามเลยเส้น (ออกเสียเถิดกรอบให้เด็กวาดรูป) ทำไมต้องมาบังคับ

และอีกเรื่องที่เราทำกันมาหลายรุ่นหลายยุคหลายสมัย นั้นก็คือ การคัดหนังสือตามรอยประ


ทำไมละทำไมต้องมาบังคับให้คัดตามรอยประ เเค่เราทำให้เค้าดูเค้าสามารถเขียนได้เเล้ว มันจำเป็นมากเลยเหรอที่เด็กต้องมานั่งทำการบ้านตามรอยประ เราลองปล่อยให้คนเลียนแบบเองเเล้วทำตามเอง อยากให้เขียนในบรรทัดใจเย็นสักนิดเมื่อกล้ามเนื้อมือเค้าเเข็งเเรงเค้าจะบังคับเขียนในบรรทัดได้เอง ผู้ใหญ่อย่าใจร้อน ทำเป็นแบบให้เห็นพอเดี๋ยวเค้าเห็นเราทำซ้ำบ่อยครั้งไม่นานเกินรอ เด็กน้อย จะทำตามเอง ใจเย็นนิดนึงนะคะ




โชกุนไม่เคยได้รับการเขียนตามรอยประใด ๆ ทั้งสิ้น สามารถเขียน ก และตัว a ได้จริง ๆ ม่าม๊าไม่ได้อยากสอนตัวหนังสือตอนนี้ แต่ว่าเราอ่านนิทานกันทุกวันโชกุนถามม่าม๊าว่านี่ตัวอะไร ๆ เลยยอมสอนนิดหน่อยพอกั๊ก ๆ ไว้จะได้อยากรู้
ด้วยวัยเอาเวลาเล่นอย่างอื่นดีกว่าไม่ต้องรีบเขียนหนังสือมากมาย เล่นไปเถอะ สี ปั้นแป้งโด ปั้นดิน วิ่งเล่น นอกบ้าน กิจกรรมมากมายหลายอย่าง ไม่ต้องมารีบเรียนเขียนอ่านกันมากมาย เอาพอขำ ๆ เป็นเรือ่งสนุกสนานพอ ชีวิตวัยเด็กถ้าไม่ได้เล่น นี่ถือว่าไม่เคยผ่านวัยเด็กนะจ๊ะ จงทำวัยเด็กให้เป็นวัยเด็กที่มีความสุขเเละมีประสบการณ์ที่น่าจดจำ อ๋อเกือบลืมอีกเรื่อง ทำไมต้องมาสอนเด็กให้ท่องกันอยู่ได้ เลข 1-10 ก-ฮ a-z จะบอกว่าไม่มีประโยชน์อันใดเลยถ้าจะสอนให้เด็กจำเเล้วท่องได้ เพราะว่าเด็กแค่ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง แต่ว่าเด็กไม่ทราบว่าที่ท่องไปมันมีลักษณะอย่างไร สอนให้เด็กท่องอะไรสอนได้หมดละไม่ว่าจะยาวแค่ไหน แต่ว่าจะท่องทำไมนกเเก้วนกขุนทองเปล่า ๆ ไว้ถึงเวลาสอนไปเลยว่านี่คือตัวอะไร ม่าม๊าเองก็อยู่ในระบบที่ต้องท่องมาก่อนมาตอนนี้ก็ท่องไม่ได้อยู่ดี ก-ฮ เพราะว่าเวลาใช้จริงไม่ได้ใช้ท่องเราใช้เขียนใช้อ่านเลย โปรดๆๆๆๆๆ เถอะนะคะอย่าสอนให้เด็กเป็นนกเลย สอนให้เป็นคนดีกว่าคะศักยภาพของพวกเค้ามีเยอะกว่าที่จะมานั่งท่องเเล้วผู้ใหญ่ปรบมืออะคะว่า เก่งๆๆๆ โห ความจำดีมาก แค่นี้เราก็สอนให้เค้าจำเเล้วไม่ใช่ใช้ความเข้าใจเลย แต่ว่าอย่างว่ามันเห็นผลเร็วกว่านี่คะท่องสอนเเป๊บเดียวเด็กได้พอได้พูดออกมาโอ้ยเก่ง จัง เสร็จเเล้วต้องสอนอีกรอบว่านี่ตัวอะไร ๆ เอางี้ดีกว่าสอนทีเดียวรอบเดียวเลยให้เค้ารู้จักลักษณะของสิ่งเหล่านั้นเลย เเล้วเมื่อรู้จักครบเราอาจะจะเสริมให้เค้าท่องเป็นเพลงอย่างสนุกสนานเเล้วในสมองก็มีภาพสิ่งเหล่านั้นเรียบร้อย เป็นการทำงานทีเดียว ช้าแต่ชัวร์กว่าเยอะ รอเมื่อเค้าอยากรู้เค้าจะเริ่มถามเรามีหน้าที่หาวิธีบอกสอน วิธีการอยากให้เค้าอยากรู้เร็วก็ไม่อยากนี่คะแค่อ่านหนังสือไปกับเค้า ชี้ชวนกันไปมาไม่นานเกินรอเด็กก็ถามเเล้ว

วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

volcano eruption

volcano theme



วันที่ 4 กย 54
โชกุนเคยเห็นภูเขาไฟแต่ในหนังสือ วันนี้เรามาทำภูเชาไฟกัน
อุปกรณ์
โซเดียมไบคาบอเนต
น้ำส้มสายชู
ดินน้ำมัน(แต่ว่าเราสองคนใช้แป้งโดวที่เก่าเเล้วเตรียมจะทิ้ง)
แก้วใบเล็ก ๆ
สีผสมอาหารสีเเดง
ถาด
วิธีการทำ
เอาดินน้ำมันพอกที่ขวดเเก้วให้มีลักษณะคล้ายภูเขาไฟ แล้วเอาโซเดียมไบคาร์บอเนตใส่ไปซักครึ่งหนึ่งเเล้วก็ใส่สีผสมอาหารเล็กน้อย หลังจากนั้นค่อย ๆ เทน้ำส้มสายชูลงไป มันจะเป็นฟองฟู่ ๆออกมาเป็นสีเเดงด้วย เพราะว่าเราใส่สีผสมอาหารลงไป เท่านี้โชกุนก็ได้เห็นภูเขาไฟระเบิดละ(เพราะว่าม่าม๊าคงจะไม่พาไปดูของจริง ๆ หรอกนะ 555)
แล้วพรุ้งนี้เรามาสนุกกันต่อเรืองภูเขาไฟ