วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ภาษาอังกฤษเเสนสนุก







โชกุนเรียนรู้ภาษาอังกฤษกับม่าม๊าอยู่แล้วแต่ว่าที่เราไปเจอ teacher sam ด้วยเพราะว่าต้องการให้โชกุนได้เจอกับฝรั่งที่ใข้ภาษาจริง ๆ และในที่นี้ต้องไม่ใช่การสอนหนังสือ อยากให้ทุกอย่างผ่านการเล่น ดังนั้นบทสนทนาก็จะเป็นเรื่องการเล่นสนุกสนานเด็กได้ใช้ภาษาจากที่เราสอนไปจริง



ความจริงเเล้วจุดประสงค์หลักของการที่ทั้งเเนนและแชมป์เลือกสอนภาษาอังกฤษให้ลูกนั้นไม่ได้ต้องการถึงขั้นต้องพูดภาษาอังกฤษกันตลอดเวลา แค่พูดมาเเล้วเข้าใจพยายามอธิบายได้ มีคลังศัพท์ในสมองโดยที่ไม่ได้แปลสองชั้น(แบบรุ่นเราเราเรียนมา) มีทัศนคติที่ดีต่อภาษาอังกฤษ เท่านั้นเอง



สรุปเราสองคนต้องการให้ลูกมีทักษะและไม่กลัวภาษาคุ้นเคยกับภาษาและสนุกไปกับสิ่งที่เรียนรู้ ซึ่งทุกวันนี้ที่สอนมาเองเป็นปีก็ได้ผลทำใหคนสอนชื่นใจเเล้ว สามารถสื่อสารได้พูดได้อธิบายได้ ไม่เข้าใจก็บอกได้ ไม่รู้ก็บอกได้ ม่าม๊าจะทำต่อไปเพราะว่าม่าม๊าเองก็เรียนพร้อม ๆ กับโชกุนนั้นละ



วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554

หนังสือดีดี ที่ควรหามาอ่าน

วันนี้ได้มีโอกาสซื้อหนังสือมาอีกเล่มอ่านเเล้วดีจัง อ่านเเล้ว happy อย่างที่ในหนังสือบอก เลย ไม่มีอะไรเลย ในหนังสือเหมือนเอาปัญหาสารพันของลูกซึ่ง ๆ จริง ๆไม่ใช่ปัญหาแต่ว่าเป็นสิ่งพัฒนาตามวัยต่างหาก จริง ๆ น่าจะเป็นพ่อแม่เป็นคนมีปัญหาเอง เช่น เราต้องเป็นพ่อแม่ที่เลี้ยงลูก perfect สิ ลูกเราต้องดีทีสุดในสังคมต้องมีคนในสังคมชมสิว่าดี เก่งจัง อะไรทำนองนี้แต่ว่ามองข้ามใจลูกไป บางคนจะห่วงมากไม่ได้นะต้องเป็นเด็กที่ฉะฉานนะต้องตอบทุกคำถามผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักถามก็ต้องทำให้ได้ กล้าสิเดินไปซื้อของแค่นี้ต้องกล้า จริง ๆ อยากจะจับพ่อแม่ที่คิดเเบบนี้ย้อนกลับไปตอยอายุเท่าลูกจริง ๆ ว่า ตอนนั้นคุณก็รู้สึกแบบลูกนี่ละ จะไปฝืนทำไมปล่อยคนให้พัฒนาเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจมั่นคงไปอย่างธรรมชาติ เป็นผู้ใหญ่ที่อดทนรออย่างใจเย็นกันหน่อยเถอะ ได้โปรดๆๆๆ เเหมเด็กเพิ่งเกิดมาก็จะให้มีความสามารถเท่าตัวเองที่มีอายุ สามสิบ สี่ิสิบ ห้าสิบเลยรึไงจ๊ะ ท่องไว้ใจเย็น ๆ คุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย เเละอีกหลาย ๆ ท่านที่เคารพ มนุษย์ไม่ใช่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ป้อนข้อมูลเเล้วจะให้ทำอะไรได้ดั่งใจทุกส่ิงทันที ให้ดอกไม้งามช้า ๆ แต่ว่ายั่งยืนและมั่นคงดีกว่านะจ๊ะ
ปล บางคนอาจจะบอกว่าอ่านนั้นนี่เยอะเกินไป จริง ๆ แล้วอ่านไว้เยอะ ๆ ก็น่าจะดีกว่านะคะ หาสิ่งที่ใช่ เอาหลายๆ เล่ม มาประมวลให้เข้ากับลูกเรามากที่สุด อ่านเพื่อเป็นแนวทางไม่ใช่พออ่านเล่มนี้ก็จะทำตามแบบเล่มนี้ เลือกสิคะเลือกเอง ปรับประยุกต์ให้เข้ากับชีวิตเราเท่านั้นเอง


วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ผมช่วยทำงานบ้านด้วยครับ



งานในบ้าน เราสองคนมักจะให้ลูกมีส่วนร่วมตลอด ทั้งที่รู้ว่ามีส่วนร่วมนั้นคือค่อนข้างเละ แต่ว่าเราสองคนคิดว่าปล่อยให้ทำให้รู้ว่าทำอย่างไร เราทำให้ดูเป็นตัวอย่างก่อน เเล้วเค้าทำตามน่าจะดีกว่าโตเเล้วต้องมาบอกทีละสิ่งทีละอย่าง แถมเด็กก็ชอบด้วยเวลาที่พ่อแม่ไว้ใจเเละให้เค้ามีส่วนร่วมในงานบ้าน

กล้ามเนื้อมือ กับ ประสาทสัมผัส


เรามีกิจกรรมบริหารกล้ามเนื้อมือ และกระตุ้นประสาทสัมผัสมาทำกัน ไอเดียนี้นำมาจากหนังสือ ของ วนิษา เรส เช่นเคย ดีมากเลยเค้ามีกิจกรรมมากมายให้เราเล่นกับลูกมากมาย
อย่างกิจกรรมนี้ ก็เค่ซื้อสาคูมาต้ม ถุงนึงไม่กี่บาทเองใช้ได้หลายครั้งด้วยเพราะว่าต้มครั้งนึงก็เล่นครั้งนึง เเล้วก็มีพวกสีผสมอาหารซึ่งขวดหนึ่งใช้ได้โหหลายรอบมากเพราะว่าครั้งนึงใช้แค่หยดเดียวสีก็ชัดเจนเเล้ว ประหยัดถูกกว่าซื้อของเล่นอื่น ๆ เยอะ แถมลูกเล่นได้บ่อย ๆ อยากเล่นเราก็ทำให้ เท่านั้นเอง ไม่เปลืองเงิน


อย่างกิจกรรมนี้ โชกุนก็จะได้สัมผัสว่าเม็ดสาคูนี่เวลาจับเเล้วมันมีความรู้สึกอย่างไรนะ เเล้วเทน้ำสี ๆ ไป ๆ มา ๆ สนุกเค้าละ เเล้วป่าป๊า ก็เอากระชอนมาทำให้ดูว่านี่ถ้าเราจะเเยกเม็ดสาคูกับน้ำเราทำแบบนี้นะ เค้าก็รู้สึกโหสนุกได้ของเล่น(ที่มีในครัว) ได้เล่นว่าเอาน้ำเทใส่เม็ดสาคูก็ยังอยู่ที่เดิมดีจัง

ลองเล่นบทบาทสมมิตอื่นดูก็ได้ เช่น ขายชานมไข่มุก โอวัลตินไข่มุก ให้เค้าได้ลองใช้ทัพพี ตักน้ำ มาใส่ถ้วยใส่ชาม เอาสาคูใส่ไปด้วย เค้าเล่นได้นานทีเดียวเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่เล่นได้นาน เเละ พ่อแม่ ได้กลับมาเล่นเเบบตอนเด็ก อีกครั้ง



พี่น้องต่างวัย

กิจกรรมของเด็กต่างวัยกันก็ต้องกิจกรรมคนละแบบ ไม่ใช่ต้องมาบังคับให้มานั่งทำสิ่งเดียวกัน เคยพาลูกไปเข้าคลาสsummer ของ โรงเรียนอนุบาลเเห่งนึงเเล้วผิดหวังมากเราไม่อะไรเลยนะที่จะมาให้เด็กรวมในห้องเดียวกัน เด็กเล็กเด็กโตอะ เเต่ว่าไม่ชอบใจอย่างมากในการบังคับให้เด็กเล็กกับเด็กโตมาทำกิจกรรมเดียวกัน เค้าจะไปสนใจสิ่งเดียวกันได้อย่างไร ถ้าแบบว่าไม่พร้อมและไม่professional พอ อย่ามาเปิดดีกว่าอย่างนี้เรียกว่าเอาแต่เงิน เช่น เด็กโตเค้าจะเป็นกิจกรรมที่นิ่งได้เเล้ว และ กิจกรรมที่เข้ากลุ่มเป็น ไม่ใช่ต้องมาบังคับเด็กเล็กมาเข้ากลุ่มต้องทำนะตอนนี้เสร็จผ่านไปประมาณสิบนาทีเอ้าเปลี่ยนกิจกรรมกันอีกเเล้วครับท่าน งง ไม่ชอบ กิจกรรมงง ๆ รู้สึกว่าเเทนที่จะได้ประโยชน์แต่ว่าอาจจะส่งผลให้เด็กไม่ลุล่วงในสิ่งที่ตนเองทำอยู่ยังไม่ไม่ทราบเหมือนทำงานไม่เสร็จกระบวนการ ทำนั้นทีนี่ทีไม่เป็นทีละอย่าง กิจกรรมหลากหลายมันก็ดีเด็กไม่เบื่อแต่ว่าหลากหลายให้มันทิศทางเดียวกันไม่ใช่เปลี่ยนจนเรายังเวียนหัว

อย่างกิจกรรมที่เราปล่อยให้ลูกเรากับหลานเราเล่น ก็เกี่ยวกับสีเหมือนกัน แต่ว่าคนละเเนวตอนนี้หลานอายุจะสองขวบชอบเล่นถ่ายน้ำจากภาชนะหนึ่งไปอีกภาชนะหนึ่งมาก เราก็เลยใส่สีผสมอาหารไปด้วยให้เค้าตื่นเต้น เค้าเล่นได้นานมาก ส่วนลูกผ่านมาเเล้วกิจกรรมเเบบนี้ ตอนนี้เค้าจะชอบเล่นนั่งระบายสี ตามใจสบายใจเค้ามาก เเม่มีหน้าที่หาสิ่งที่นอกเหนือจากกระดาษมาให้เค้าลองระบายให้เค้ามีความตื่นตัวในสิ่งใหม่ ๆ เเละสิ่งที่เเม่เตรียมก็ไม่ใช่อะไรวุ่นวายเลยแม้แต่น้อย และไม่ใช่ของที่ต้องซื้อหาเลยด้วย ก็พวกเปลือกหอยเเมงภู่ที่ทานเสร็จเเล้วล้างให้สะอาดโหนั่งระบายได้นาน หรือ ที่บ้านมีอิฐมอญ อิญอะไรที่ยังไม่ได้ใช้หรือว่าเหลือ เราก็เอามาให้ลูกระบายสีเล่น คิดไปเล่นไปเเล้วแต่จินตนาการ








ว่าด้วยเรื่องจินตานาการนี่สำคัญจริง ๆ ตอนนนี้ลูกเราชอบตัดกระดาษเเล้วเค้ามักจะบอกว่า นี่เป็นไงเหมือนรถม่าม๊าเลย (คือถามจริง ๆไม่เหมือนเลยเเม้แต่น้อย) คือ ความสามารถเค้ายังไม่สามารถตัดให้ออกมาเหมือนได้ แต่ว่าสิ่งที่เรารู้ได้ทันทีคือ อืม ระหว่างที่เค้าตัดนี่เค้ามีภาพในสมองของเค้านะไม่ใช่ตัดไม่มีทิศทางเหมือนตอนเเรก ๆ ตอนที่เพิ่งเริ่มใช้กรรไกร แต่ว่าสิ่งที่เราต้องทำ คือ ยิงคำถามที่ต่อยอดให้เค้า เช่น เหรอลูกจริงด้วยเอ้ ตรงไหนประตูตรงคนขับนะม่าม๊ามองไม่ชัด ให้เค้าสนุกและมีกำลังใจต่อไปในการคิดและฝึกภาษาพูดไปเรื่อย ๆ แต่ ผู้ใหญ่บางคนจริงจังมากกับความสามารถเด็ก พอเด็ก เอามาให้ดูหน้าเริ่มขมวดทันทีเเล้วตัดความคิดเด็กได้ทันทีว่าเหรอไม่เห็นจะเหมือนเลยดูไม่ออก (เรากลัวมาก) ที่จะมีคนในบ้านมาพูดแบบนี้ เพราะว่าคนนอกบ้านยังไม่เท่าไหร่ ไม่มีอิทธิพล แต่ว่าคนในบ้าน ขอร้องนะคะ ช่วยยิงคำถามต่อยอดความคิดให้กับเด็กนะคะถือว่าช่วย ๆ กันสร้างให้ลูกให้หลาน ได้มีความคิดสร้างสรรค์สนุกสนานกล้าคิดกล้าพูดไม่ใช่ โอยไม่เอาดีกว่า เดี่ยวคราวหน้าบอกไป ลุงป้าน้าอาบอกไม่เหมือนไม่พูดดีกว่า บางทีเราอาจจะทำร้ายความรู้สึกของเด็กโดยที่เราไม่รู้ตัวนะคะ ฝาก ๆ ให้นึกเยอะ ๆ ก่อนพูดกับเด็ก สมองของเค้ายังมีพลังสร้างสรรค์มากมายปล่อยให้เค้าได้คิดกันเยอะ ๆ เถอะคะ เพื่อว่าอนาคตจะได้มีผู้ใหญ่ที่เป็นประชากรที่คิดเป็น ไม่ต้องเดินตามกันเป็นขบวนออกนอกขบวนไม่ได้

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กิจกรรมที่ให้โชกุนเพลินมากวันนี้ได้เเก่ เปิดร้านขายของ เสริมสร้างจินตนาการ

กิจกรรมนี่ก็แค่มีน้ำให้เด็กตักเล่นผสมสีผสมอาหารเล็กน้อย พอกระตุ้น ต่อมสมองให้คิดสนุกจินตนาการเล่นเป็นขายน้ำนั้นนี่ตามที่เค้าคิดเอง เเล้วม่าม๊าก็เอาเม็ดแมงลักมาให้เล่นตัก ๆ ด้วย มีอุปกรณ์มากมายเหมือนเปิดร้านขายของย่อม ๆ ให้คิดเอาเองว่าอยากขายอะไร มีทั้งเปลือกหอยเเมงภู่ที่เรากินกันเกลี้ยงเเล้วก็ยังเอามาเล่น เเล้วก็เตรียมถ้วยชาม ช้อน ที่ตัก แม้กระทั้งเตาขนมครกให้ตักนั้นี่ใส่ไปในถาดขนมครก


สิ่งที่ได้เรียนรู้นั้นมากมาย

ได้ความสนุกสนานก่อนเลยอันดับเเรก เค้าได้เล่นผสมสีไปมา เล่นกับน้ำ(ไม่มีเด็กคนไหนไม่ชอบเล่นน้ำ)

ได้ใช้จินตนาการตัวเองเล่นบทบาทสมมติ เป็นพ่อค้า ขายของ มีการเอาน้ำใส่ถุงรัดปากถุง มีการกะปริมาณของน้ำ และของที่จะใส่ในถุง รู้จักถ่ายเทสิ่งของจากสิ่งหนึ่งไปอีกสิ่งหนึ่ง

ได้เรียนรู้ภาษา ในการซื้อของ ขาย ของ เช่น เท่าไหร่ เงินทอน รอสักครู่ยังไม่สุก หรือว่าขอผสมใหม่ก่อนนะครับตอนนี้หมด

แต่ว่าการเล่นจำพวกนี้ ตัวม่าม๊าเองแปลกใจมากว่าทำไมบางคนไม่ปล่อยให้ เด็กผู้ชายเล่น แบบใช้จินตนาการเเบบนี้ พวกขายของ เคยมีคนเห็นม่าม๊าปล่อยให้ลูกเล่นขายของ เค้าบอกว่าทำไมปล่อยให้เล่น ทำไมไม่ให้เล่นมีดต่อสู้แบบแมน ๆ ม่าม๊าว่าไม่เห็นด้วยอย่างมากทำไมเราต้องสอนความเป็นผู้ชายผ่านการเล่นรุนเเรงและใช้กำลังอย่างเดียวหรือนี่ ถ้าสอนเเบบนี้กันหมดอีกหน่อยผู้ชายในอนาคตคงไม่มีสมองเท่าไหร่คงจะใช้แต่กำลังเพราะว่าไม่เคยได้จินตนาการอะไรเลยกลัวนั้นนี่กลัวว่าเด็กผู้ชายจะเป็นเบี่ยงเบนทางเพศ ม่าม๊าสงสัยมากการที่เด็กผู้ชายเค้าสมมิตว่าเค้าเป็นพ่อค้ามันจะเบี่ยงเบนทางเพศตรงไหน จริง ๆ การสอนให้เด็กผู้ชายเป็นผู้ชายเราควรจะสอนให้เค้าสุภาพ ให้เกียรติคน มีมารยาทดีกว่าไหม อย่าไปมัวแต่กังวลว่าเล่นแบบนี้แบบนั้นเป็นการเล่นของผู้หญิง เราให้เค้าเล่นสมมติว่าเค้าขายของไม่ได้ให้เค้ากรีดตา ทาปาก อะไรให้เค้า ปล่อยเด็กให้ได้ใช้จินตนาการกันบ้างไม่ใช้ อะไรก็ต้อง เล่นเกม ดูทีวี เล่นคอม เล่นทั้งที่ให้เค้าเล่นเเบบมีสาระให้ฝึกสมองแบบในสิ่งที่จับต้องได้จริง ไม่ใช่เล่นต่อสู้ ฟันดาบ ชกต่อย อย่าลืมเด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า เราใส่ปู๋ยอย่างไรเราก็จะได้ผลผลิตเช่นนั้น










วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ลูกชิ้น
















กิจกรรมที่ให้เด็กทำมีรอบตัว เด็กสามารถเรียนรู้ได้ทุกเรื่องได้ตลอดเวลา กิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือสิ่งที่พ่อแม่ทำอยู่เเล้วนั้นละคือสิ่งที่เด็กมีความตื่นตัวอยากจะรู้มาก ตัวอย่างวันนี้กิจกรรมง่ายมากกกก คือ เราจะกินลูกชิ้นปิ้งกัน เลยให้โชกุนเสียบลูกชิ้นไปในไม้ เเค่นี้เค้าก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างเหมือนกัน
ได้เรียนรู้ว่า ของที่ยังดิบอยู่มีลักษณะอย่างไร ได้จับได้สัมผัส




ได้เรียนรู้ที่จะต้องระวังไม้ที่เสียบลูกชิ้นนะถ้าเสียบเร็วไปไม่ระวังไม้ก็ทิ่มมือ(ตรงนี้พ่อแม่ต้องคอยดูเเลแต่ว่าไม่ใช่ส่งเสียงระวังตลอดเวลากำกับดูว่าเค้าทำได้ก็ไม่ต้องไปบอกระวังๆอะไรมากมาย)คือ พ่อแม่ต้องมั่นใจเเละอย่าไปตื่นเต้นไรมากเหมือนเวลาลูกใช้กรรไกร ของพวกนี้เป็นของอันตราย เป็นของมีคม ต้องระวังแต่ว่าไม่ใช่ระแวงเกินเหตุ สอนเเละดูเเลพอ ของอันตรายถ้าไม่ปล่อยให้ได้มีโอกาสใช้เค้าจะไม่ได้ฝึกทักษะเลย ในที่นี้ก็ต้องคำนึงด้วยอันตรายในขอบเขตที่พอดี กรรไกร เราต้องให้เค้าฝึกทักษะให้เค้าเรียนรู้ว่าการใช้ของพวกนี้เค้าต้องถือต้องจับอย่างไร เวลาใช้ต้องไม่เดินไม่วิ่ง เป็นต้น



ได้เรียนรู้คณิตศาสตร์ นับลูกชิ้นว่าเสียบไปกี่ลูกแล้ว



เเค่นี้เด็กก็ได้เรียนรู้ผ่านสิ่งที่ทำปกติเค้ามีส่วนร่วมเค้าก็รู้สึกว่า เค้าโตเเล้วนะช่วยพ่อแม่ทำงานทำกิจกรรมเล็กๆน้อยๆ ได้ อย่างเหตุการณ์ที่เค้าชวยเค้าก็จะพูดว่า โชกุนโตเเล้วช่วยทำได้ด้วย

วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2554

sink or float







กิจกรรมนี้เป็นการสอนเเบบต่อเนื่องจากกิจกรรมเล่นระบายสีบนกระจกปล่อยให้ระบายอิสระตามใจอยากวาดไรวาดอยากทำไรทำเอาสีไหนผสมกันทำเลย แต่ หลังจากเล่นเราต้องเก็บล้าง ระหว่างที่ล้างนั้นก้สามารถให้ลูกสังเกตุได้ว่าสิ่งของชิ้นไหนลอยชิ้นไหนจม โชกุนก็สนุกอีกเช่นกัน เพราะว่าได้เล่นน้ำเเละมีของอย่างอื่นมาเล่นด้วยแบบมีการหาคำตอบ(จริงๆจม ๆลอย ๆ นี่ม่าม๊าชี้ชวนให้สังเกตุตลอดอยู่เเล้ว แต่ว่าวันนี้ดูจะสนุกมากเป็นพิเศษ)
ดังนั้นเวลาเล่นเห็นมั้ยว่าต้องเล่นอย่างมีการแอบแฝงไม่ใช่เล่นไร้สาระ สักแต่ว่าเล่นเล่นแบบมีทิศทางเเล้วลูกจะได้ทั้งสนุกและได้เรียนรู้ไปด้วยตัวเค้าเองไม่ต้องไปสอนไรเลยแค่ทำหน้าที่จัดสถานการณ์ละให้ความช่วยเหลือเท่านั้น

pilican นกกระทุง


เรื่องของเรื่องคือโชกุนไปขี่จักรยานกับม่าม๊าทุกเย็นเเล้วไปเจอเจ้านกกระทุงนี่เข้าอยู่ที่หน้า รพ สัตว์ ในมหาวิทยาลัยเกษตร โชกุนสนใจมาก ม่าม๊าเลยจัดการหาข้อมูลสอน่านการเล่าเรื่องเเละดูของจริง โหยิ่งคุยกันยิ่งสนใจยิ่งสนุก แบบรู้เลยว่ามีพลังของความอยากรู้ (นี่ละมั้งที่เค้าว่าถ้าจัดการเรียนการสอนตามที่ผู้เรียนอยากรู้นี่แถบจะไม่ต้องทำไรมากเค้าจะถามและถามและสนใจมากๆๆ) ม่าม๊ามีหน้าที่ศึกษาข้อมูลที่เหมาะกับวัยโชกุน ทั้งภาษาไทยและอังกฤษเท่านั้นคอยเล่าให้ฟัง อย่างน้อยโชกุนทำให้ม่าม๊ารู้คำศัพท์เพิ่มขึ้นเลย