วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

กิจกรรมเล่นเปียโน

สรุปว่า ม่าม๊าก็ได้ครูทีสอนเปียโนโชกุนเเล้ว ที รร kpn มาดูกันดีกว่าว่าเพลงเเรกเป็นอย่างไร ก็ต้องฝึกซ้อมกันตอไป เรียนแล้วดีจริงดีจังเรียนดนตรีทำให้ลูกมีสมาธิดี แล้วก็มีความอดทนทีจะซ้อมด้วยตอนนี้เลยชอบซ้อมทุกวัน ทำให้เค้ารู้สึกว่าเค้าต้องรับผิดชอบนะต้องซ้อมเพือไปเล่นให้ครูฟังเหมือนส่งการบ้านคุณครู

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556

ความคืบหน้าของการเล่นดนตรี

อาทิตย์ที่สองที่เราสองคนเล่นดนตรี โดยม่าม๊าสอนเอง โชกุนเล่นมือคีย์บอร์ดได้โดยมือขวาได้เเล้วหนึ่งเพลงแต่ว่าวางนิ้วยังคงมีผิดบ้างเล็กน้อยไม่ว่ากัน (เพราะว่านิ้วยังสั้นอยู่อาจจะยังไม่ถนัดและอาจจะยังไม่เเม่นมาก)
 มาม๊าชอบมากเลยช่วงนี้คือโชกุนมีกิจกรรมทำเพิ่มขึ้นเวลากลางวันที่ออกไปเล่นข้างนอกไม่ได้จริง ๆ มันร้อนมาก ก็มีมานั่งเล่นคีย์บอร์ดได้อยู่นาน แถมดูจดจ่อดีด้วยเพลิน ๆ ดี (แต่ว่าม่าม๊านี่สิต้องปัดฝุ่นอย่างเยอะและต้องนั่งเรียนรู้เพิ่มอีกเเยะแต่ว่าก็สนุกดี )

เพลงเเรกที่เล่นคือ rain rain go away จริง ๆที่มาเล่นเพลงนี้ก่อนเลยเพราะว่าเห็นม่าม๊านั้งเล่นเลยอยากเล่นบ้าง ได้ผลมากดังนั้นอยากให้ลูกทำอะไรต้องทำให้ได้ก่อน
ลองมาชมกันนะครับ


วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556

มาทำครีมกันแดดใช้เองกันเถอะ(ถูกกว่าเยอะ) คิคิ

วันที่ 5 มีนาคม
เราสองคนก็มีอีกกิจกรรมคือ ผลิตครีมกันแดดใช้เองโดยโชกุนเป็นผู้ช่วยม่าม๊า งานนี้ได้ช่วยตวง และยังรู้จักส่วนผสมอีกด้วย ช่วยทำจนจบกระบวนการ
เราก็มีครีมกันแดดใช้เอง ไม่มีสารกันเสียส่วนผสมมาจากธรรมชาติด้วยม่าม๊าเอาสูตรมาจากเว็ปนี้
http://wellnessmama.com/2558/natural-homemade-sunscreen-recipe/

ตอนเเรกม่าม๊าก็งงว่า ในส่วนผสมมันมี zinc oxide อยากรู้ว่ามันคืออะไรพอไปสืบมาเลยเข้าใจละพอศึกษาหลาย ๆ เว็ปไม่ว่าจะเป็นเว็ปนี้
http://www.neramid.com/Blog/Detail/20
http://www.badgerbalm.com/s-33-sunscreen-zinc-nanoparticles.aspx
http://organicpassion.info/zinc-oxide-sunscreen-vs-titanium-oxide-sunscreen/

เป็นอันว่าเข้าใจง่าย ๆว่ามันปลอดภัยกว่าเเละเราก็สามารถทำเองได้ด้วย ดีมากตรงนี้ละไม่ต้องไปซื้อเเล้วเราสองเเม่ลูก


วันนี้ม่าม๊าสอนให้โชกุนเล่น คีย์บอร์ดวันเเรก

จริง ๆม่าม๊าสอนเล่น ๆ มานานพอสมควร ด้วยความรุ็ที่ตัวเองเคยพอมีจากการเรียนอีเล็คโทนตอนเด็กซึ่งมันลืมเลือนมากแต่ว่าเพื่อลูกต้องมาปัดผุ่นกันหน่อย ก็พอโอเค ยังทำได้อยู่ในเมื่อไปหามาหลายโรงเรียนแต่ว่าเค้าบอกว่าไม่มีครูสอน ครุไม่ถนัดเด็กเล็ก บางที่ก็อัดเข้าไปสิบห้าคนถ้าโชกุนไปจะเป็นคนที่สิบหกแถมต้องไปเรียนพิเศษอะไรให้ทันเพื่อน ฟังเเล้ววุ่นวาย ในเมื่อเรามีเครื่องเอง แม่พอเล่นได้ แล้วเดี่ยวนี้ในสื่อมีสอนเยอะเเยะ ในอินเตอร์เน็ตพอได้อยู่ ประเด็นแรกคืออยากให้โชกุนเพลินมีอะไรทำ เพิ่มขึ้นและ ก็สนุกที่จะได้เล่น เท่านั้นก่อน หลังจากนั้นโตกว่านี้หรือว่าโรงเรียนเค้ามีครูที่สอนเด็กเราค่อยไปละกัน
ผลงานวันแรกออกมาก็โอเคนะ รู้จักวางนิ้วให้ตรงชองตอนเล่น โดเรมีฟาซอล แต่ว่าตอนเล่นกลับนิ้วยังสั้นและยังบังคับได้ไมค่อยดีเดี่ยวค่อย ๆ ฝึกไปละกัน สนุกดีเพลินทั้งแม่และลูก หยอดกันวันละนิด พอเพลิน ๆ นะลูกนะ อีกหน่อยคงได้เยอะเอง
แล้วเดี่ยวม่าม๊าจะคอยรายงานพัฒนาการดูนะว่าเป็นอย่างไร




วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556

ทดลองกาลักน้ำ


วันนี้ป๊าชวนทดลองกาลักน้ำกันสองคนพ่อลูก
 อุปกรณ์แสนง่ายขวดน้ำสองขวด น้ำ สายยาง สีผสมอาหารเพื่อจะได้ให้เห็นชัด
ผลออกมาตามรูปและวิดีโอนะคะ 





homeschool กับเด็กปฐมวัย

การ homeschool ในระดับปฐมวัยนั้่น สำหรับแนวบ้านเราและกลุ่มบ้านเรียนในวัยเดียวกันกับเราที่เราไปมาหาสู่ปรึกษาหารือกันนั้น ส่วนใหญ่ล้วนแล้วจะปล่อยให้เด็กเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีการสอนวิชาการแต่พวกเค้าจะได้เรียนรู้ในสิ่งที่จริง ๆ มันคือวิชาการโดยทีเค้าไม่รู้ตัว การเรียนของเด็กบ้านเรียนโดยเฉพาะในระดับปฐมวัยส่วนใหญ่จะไม่มี รูปแบบที่เสร็จสมบูรณ์ออกมาสวยงามมีสมุดงานมาให้ดูว่า นี่งานเราได้กี่ดาว ๆ แต่ว่ามันจะเป็นเรื่องของการบูรณาการทั้งหมดทั้งสิ้นที่อยู่รอบตัวเสียมากกว่า

เช่นสมมติเรียนเรื่องคณิตศาสตร์ ก็เรียนจากการนับสิ่งของจริง ๆ หยิบจับ จริง ๆ สามารถนับทุกสิ่งรวมทุกสิ่ง จากสิ่งรอบตัวได้เลยไม่ต้องไปนั่งทำเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ หรือในระหว่างที่นับแม่อาจจะเเทรกวิชาอื่นเข้าไปได้อีก คือเอาง่าย ๆ เด็กเรียนแบบบ้านเรียนนั้นว่าไปเค้าเรียนทั้งวันนะคะ ไม่ได้มีวันหยุด เพราะว่าครูของเค้าอยู่ก้บเค้าตลอดเวลา(เป็นครูที่ค่าตัวถูกที่สุดเพราะว่าไม่มีค่าจ้างใด ตอบแทนเลย มีแต่ความชื่นใจเท่านั้นเวลาลูกพัฒนาไปเรื่อย ๆ )

บางคนถามว่าเอ้าไม่สอนเชิงวิชาการเลยแล้วจะไปสู้กับคนอื่นทันไหม แล้วอีกหน่อยจะโง่ไหม

คือเราเน้นพัฒนาการของเด็กอะคะ คือถ้าให้นึกถึงเด็กปฐมวัย วัยอนุบาล ล้วนแล้วแต่อยากเล่น อยากเคลื่อนไหว แสดงว่าถ้าเราเสริมทักษะให้ตรงกับพัฒนาการของเค้ามันน่าจะง่ายกว่า คือ เอาง่าย ๆ ถ้าเราสอนให้เค้าใช้ทางด้านร่างกายเล่น ปียป่าย ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ จะไปได้เร็วกว่าจับเค้ามานั่งอ่านหนังสือเขียนหนังสือตามคุณครูในห้อง คือ แรงกระตุ้นที่จะทำในสิ่งสองสิ่งมันต่างกัน ความอยากมันต่างกัน เพราะว่าเค้ายังอยากเคลืนไหวเยอะ ๆ อยู่  แต่ว่าพอวุฒิภาวะเค้ามาอายุเยอะขึ้นเค้าจะพร้อมทีจะนั่งฟังเรานานขึ้น เเล้วพร้อมจะทำในสิงทีเราอยากจะสอนเค้าได้ง่ายขึ้น

ดังนั้นไม่น่ากลัวหรอกคะ เดี่ยววัยเค้ามาอายุมาพัฒนาการมา เดี่ยวเราก็จะทราบเองว่าเราควรจะสอนเค้าอะไรแล้วต้องทำอย่างไร ตัวเค้าเองนั้นละคะเป็นคนกำหนดแผนการสอนของเรา

และคำถามยอดฮิตคือ อีกหน่อยไม่มีสังคม เข้ากับคนอื่นไม่ได้ ไร้วินัย ไร้ระเบียบ

ทั้งหมดของคำถามนี้จริง ๆ เราอยากให้ย้อนมองดูแค่ครอบครัวพอ ถ้าครอบครัวมีสังคมเป็นคนดี มีมารยาท เคารพกฎ ไม่ต้องห่วงหรอกคะ เค้าคงไม่ฉีกเเนวมาก ทุกอย่างพื้นฐานคือครอบครัว ถ้าแบบอย่างดี ไม่มีอะไรน่ากลัว ไม่งั้นจะมีคำพูดว่า พ่อแม่เป็นอย่างไรลูกก็เป็นอย่างนั้น(แต่ว่าถ้าพ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงเลยให้คนอื่นเลี้ยงเค้าก็จะเป็นเเบบคนที่เลี้ยงเค้า ดังนั้นก่อนตัดสินใจส่งลูกให้ใครเลี้ยง บวก ลบ คูณ หารดีดีนะคะ)
การไม่มีสังคมไม่น่าจะเกี่ยวเพราะว่าลูกชายก็มีเพื่อนปกติ และ เพื่อน ๆ เค้า ก็ไปโรงเรียนปกติ เรามีสังคมลูกเราก็มีสังคมคะ เพียงแต่เค้าจะแตกต่าง เราก็ต้องบอกเค้าถึงความแตกต่างอธิบายให้เค้าฟัง  แล้วถามความสมัครใจของเค้าว่าอยากจะต่างหรืวว่าอยากจะเหมือนในเมื่อเค้าเลือกอยากจะต่าง ให้แม่สอนให้พ่อสอน เรา ก็ต้องจัดสมดุลย์ให้ดี คือ พาเค้าทำกิจกรรม พาเค้าเจอเพื่อน บ้างตามสมควร และจุดที่สำคัญมากคือ การทำโฮมสคูล เราไม่ได้หมายความว่า เรา เจ๋งกว่าคนอื่น  ไม่มีการพูดพาดพิงใด ๆ ให้ลูกรู้สึกว่าเราเหนือกว่า หรือว่าพูดให้ลูกรู้สึกประหลาด เราต้องทำให้เค้ารู้ว่าเค้าแตกต่่าง แต่ว่าการเเตกต่างนั้นปกติไม่ได้ผิดอะไร ไม่เสียหายด้วย ตรงนี้พ่อแม่เวลาตอบคำถามคนอื่นในความคิดเราคือ ควรตอบอย่างมั่นใจว่า ทำโฮมสคูลคะ เรามั่นใจลูกเราก็จะมั่นใจ

สุดท้ายอ่านไปอ่านมา สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ครอบครัว หน่วยของสังคมที่เล็กจิ๋วที่สุดแต่ว่ามีพลังมหาศาลนะคะ สังคมจะดีไม่ดีขึ้นอยู่กับทุกครอบครัวสร้างผลผลิตออกมานะคะ ให้ความสำคัญกับครอบครัวกันเยอะ ๆ เพราะว่าเราตัดสินใจมีเค้าออกมาเเล้ว เค้าจะดีหรือว่าไม่ดี ไมได้ขึ้นอยู่กับว่า เราสามารถทำมาหาเงินได้มาหาเงินได้มากมายเเค่ไหน แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณทุ่มเทเเละมีเวลาให้เค้ามากเเค่ไหน  (พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องหาเงินนะคะ แต่ว่าหมายความว่าหา แบบไม่ต้องอะไร ๆ ก็ลงที่งานไปซะหมด หาแต่เงินไม่มีเวลาให้ลูก ลูกไม่รู้หรอกคะว่าคุณมีเงินมากแค่ไหน เค้าสนใจแต่ว่าคุณมีเวลาให้เค้าเเค่ไหน)

มีคนเคยบอกว่าเลี้ยงลูกเหมือนซื้อที่ดิน กว่าจะงอกเงยให้กำไรอะ ไม่ได้ใช้เวลาเเค่ปีเดียว แต่ว่าเมื่อถึงเวลา ผลกำไรนั้นย้อนกลับมามหาศาล

บ้ายบายคะ ขอให้สนุกมีความสุขกับครอบครัวกันเยอะ ๆนะคะ

วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556

review number again and again

เรื่องตัวเลขม่าม๊ายังคงทำซ้ำแค่เลขหนึ่งถึงสิบ ให้โชกุนคล่อง ทำซ้ำไปซ้ำไป นับไปนับมากิจกรรมเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ อย่างวันนี้กิจกรรมของเราก็ทำโดยม่าม๊าสแตมป์ตัวสัตว์ให้โชกุนนับ แล้วให้โชกุนปั๊มตัวเลขให้ตรงกับจำนวนของสัตว์ ทำได้ถูกหมด แต่ว่ายังคงมี สับสนเลข หก กับเก้านิดหน่อย ไม่เป็นไรไม่เครียด ค่อย ๆทำซ้ำอีกเดี่ยวก็หายงง ไม่รีบไม่เร่ง เน้นช้า ๆ ไปเรื่อย ๆ แต่ว่าเอาชัวร์มีรูปมาฝากกันคะ