วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

พี่น้องต่างวัย

กิจกรรมของเด็กต่างวัยกันก็ต้องกิจกรรมคนละแบบ ไม่ใช่ต้องมาบังคับให้มานั่งทำสิ่งเดียวกัน เคยพาลูกไปเข้าคลาสsummer ของ โรงเรียนอนุบาลเเห่งนึงเเล้วผิดหวังมากเราไม่อะไรเลยนะที่จะมาให้เด็กรวมในห้องเดียวกัน เด็กเล็กเด็กโตอะ เเต่ว่าไม่ชอบใจอย่างมากในการบังคับให้เด็กเล็กกับเด็กโตมาทำกิจกรรมเดียวกัน เค้าจะไปสนใจสิ่งเดียวกันได้อย่างไร ถ้าแบบว่าไม่พร้อมและไม่professional พอ อย่ามาเปิดดีกว่าอย่างนี้เรียกว่าเอาแต่เงิน เช่น เด็กโตเค้าจะเป็นกิจกรรมที่นิ่งได้เเล้ว และ กิจกรรมที่เข้ากลุ่มเป็น ไม่ใช่ต้องมาบังคับเด็กเล็กมาเข้ากลุ่มต้องทำนะตอนนี้เสร็จผ่านไปประมาณสิบนาทีเอ้าเปลี่ยนกิจกรรมกันอีกเเล้วครับท่าน งง ไม่ชอบ กิจกรรมงง ๆ รู้สึกว่าเเทนที่จะได้ประโยชน์แต่ว่าอาจจะส่งผลให้เด็กไม่ลุล่วงในสิ่งที่ตนเองทำอยู่ยังไม่ไม่ทราบเหมือนทำงานไม่เสร็จกระบวนการ ทำนั้นทีนี่ทีไม่เป็นทีละอย่าง กิจกรรมหลากหลายมันก็ดีเด็กไม่เบื่อแต่ว่าหลากหลายให้มันทิศทางเดียวกันไม่ใช่เปลี่ยนจนเรายังเวียนหัว

อย่างกิจกรรมที่เราปล่อยให้ลูกเรากับหลานเราเล่น ก็เกี่ยวกับสีเหมือนกัน แต่ว่าคนละเเนวตอนนี้หลานอายุจะสองขวบชอบเล่นถ่ายน้ำจากภาชนะหนึ่งไปอีกภาชนะหนึ่งมาก เราก็เลยใส่สีผสมอาหารไปด้วยให้เค้าตื่นเต้น เค้าเล่นได้นานมาก ส่วนลูกผ่านมาเเล้วกิจกรรมเเบบนี้ ตอนนี้เค้าจะชอบเล่นนั่งระบายสี ตามใจสบายใจเค้ามาก เเม่มีหน้าที่หาสิ่งที่นอกเหนือจากกระดาษมาให้เค้าลองระบายให้เค้ามีความตื่นตัวในสิ่งใหม่ ๆ เเละสิ่งที่เเม่เตรียมก็ไม่ใช่อะไรวุ่นวายเลยแม้แต่น้อย และไม่ใช่ของที่ต้องซื้อหาเลยด้วย ก็พวกเปลือกหอยเเมงภู่ที่ทานเสร็จเเล้วล้างให้สะอาดโหนั่งระบายได้นาน หรือ ที่บ้านมีอิฐมอญ อิญอะไรที่ยังไม่ได้ใช้หรือว่าเหลือ เราก็เอามาให้ลูกระบายสีเล่น คิดไปเล่นไปเเล้วแต่จินตนาการ








ว่าด้วยเรื่องจินตานาการนี่สำคัญจริง ๆ ตอนนนี้ลูกเราชอบตัดกระดาษเเล้วเค้ามักจะบอกว่า นี่เป็นไงเหมือนรถม่าม๊าเลย (คือถามจริง ๆไม่เหมือนเลยเเม้แต่น้อย) คือ ความสามารถเค้ายังไม่สามารถตัดให้ออกมาเหมือนได้ แต่ว่าสิ่งที่เรารู้ได้ทันทีคือ อืม ระหว่างที่เค้าตัดนี่เค้ามีภาพในสมองของเค้านะไม่ใช่ตัดไม่มีทิศทางเหมือนตอนเเรก ๆ ตอนที่เพิ่งเริ่มใช้กรรไกร แต่ว่าสิ่งที่เราต้องทำ คือ ยิงคำถามที่ต่อยอดให้เค้า เช่น เหรอลูกจริงด้วยเอ้ ตรงไหนประตูตรงคนขับนะม่าม๊ามองไม่ชัด ให้เค้าสนุกและมีกำลังใจต่อไปในการคิดและฝึกภาษาพูดไปเรื่อย ๆ แต่ ผู้ใหญ่บางคนจริงจังมากกับความสามารถเด็ก พอเด็ก เอามาให้ดูหน้าเริ่มขมวดทันทีเเล้วตัดความคิดเด็กได้ทันทีว่าเหรอไม่เห็นจะเหมือนเลยดูไม่ออก (เรากลัวมาก) ที่จะมีคนในบ้านมาพูดแบบนี้ เพราะว่าคนนอกบ้านยังไม่เท่าไหร่ ไม่มีอิทธิพล แต่ว่าคนในบ้าน ขอร้องนะคะ ช่วยยิงคำถามต่อยอดความคิดให้กับเด็กนะคะถือว่าช่วย ๆ กันสร้างให้ลูกให้หลาน ได้มีความคิดสร้างสรรค์สนุกสนานกล้าคิดกล้าพูดไม่ใช่ โอยไม่เอาดีกว่า เดี่ยวคราวหน้าบอกไป ลุงป้าน้าอาบอกไม่เหมือนไม่พูดดีกว่า บางทีเราอาจจะทำร้ายความรู้สึกของเด็กโดยที่เราไม่รู้ตัวนะคะ ฝาก ๆ ให้นึกเยอะ ๆ ก่อนพูดกับเด็ก สมองของเค้ายังมีพลังสร้างสรรค์มากมายปล่อยให้เค้าได้คิดกันเยอะ ๆ เถอะคะ เพื่อว่าอนาคตจะได้มีผู้ใหญ่ที่เป็นประชากรที่คิดเป็น ไม่ต้องเดินตามกันเป็นขบวนออกนอกขบวนไม่ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น