วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ปฎิบัติการทำไอศรีมกินเองกัน




หลังจากเมื่อวานนี้เราได้ทำ นมข้นเองกันไปแล้วที่บอกว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของส่วนผสมการทำไอศรีมโดยไม่ต้องใช้เครื่องทำไอศครีม มาเตรียมส่วนผสมกันเถอะ
 1 whip cream 2 ถ้วยตวง
2 นมข้น(ม่าม๊าแนนใช้นมข้นที่ทำเอง นะคะสูตรดูได้จากเนือ้หาเมื่อวานนี้) แนนไม่ชอบหวานมากเลยใส่ประมาณ 8 ออนซ์ ซึ่งสูตรที่ทำนมข้นเมื่อวานจะทำได้ประมาณ 8 ออนซ์ พอดี คือถ้าตามสูตรของต้นฉบับจริง ๆเค้าใช้ 14 ออนซ์ หรือประมาณหนึ่งกระป๋อง

ขั้นตอนการทำ แนนแปะลิงค์ไว้ให้นะคะตามนั้นเลย

http://www.biggerbolderbaking.com/homemade-ice-cream/

ส่วนผสมทั้งหมดวันนี้เราทำรส คุ้กกี้แอนด์ครีม หรือรสโอรีโอกับโกโกครั้นช์

ปั่นตัวเบสของไอศครีม คือวิปครีมก่อนจนขึ้นฟูแล้วค่อยใส่นมข้นปั่นจนมันขึ้นฟู


เราก็หักคุ้กกี้ เป้็นชิ้นตามขนาดที่เราชอบแล้วเอาตัวเบสไอศครีมลงมาคลุก
   

                                  สรุปมันมีตัวเบสไอศครีมเหลือเลยเอาผงมัชฉะลงไปผสมซะเลย
ลอง print label มาติดสนุกๆ กัน
 

วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ชวนลูกทำนมข้นเอง

กิจกรรมหลังเลิกเรียน
สืบเนื่องมาจากว่าเราอยากจะทำไอศครีมโฮมเมดกันแล้วเราอยากแบบทำไรเองได้หมด คือจุดประสงค์อยากให้ลูกรู้ว่าอะไรทำมาจากอะบ้าง มีขั้นตอนยังไง และได้เป็นกิจกรรมสนุก ๆ ที่สำคัญได้กินอะไรที่ไม่ต้องมีสารกันบูด ยอมรับว่าบางอย่างยังเพิ่งมารู้เร็วๆนี้เองว่าอ๋อมันผลิตมาจากสิ่งนี้หรือนี่ โปรเจคของเราคือจะทำนมข้นเองมาเตรียมอุปกรณ์กันไม่มีอะไรเล้ยง่ายนิดเดียว

 1 นมสด 2ถ้วย
2 น้ำตาล 2/3 ถ้วย


วิธีการทำ
นำนมสดและน้ำตาลผสมกันในหม้อ แล้วตั้งไฟกลาง พอมันละลายเลิกคน ให้แค่มันแบบเดือดอ่อนๆไปเรื่อย ๆจนมันเปลี่ยนสีเป็นเหลืองเข้มเราก็ช้อนฟองออก พอสัก 45 นาทีเราก็ยกมาใส่ในโหลแก้วรอเย็น นำเก็บเข้าตู้เย็น

ข้อดีของกิจกรรมนี้ก็คือลูกได้
เรียนรู้ว่านมข้นมันทำมาจากอะไรบ้าง
ได้ทำการชั่งตวงส่วนผสม
ได้ทดลองทำเองจริงๆ
และได้เรียนรู้ว่า คำว่า condensed milk   stir  saucepan  dissolve  เป็นต้นถึงบางทีรู้แล้วแต่พูดแล้วพูดอีกก็ดี มีอีกหลายคำแม่ได้ทบทวนฝึกพูดด้วยได้สอนลูกด้วยผ่านกิจกรรม
 เรียนรู้ศัพท์วันละนิดจิตแจ่มใส (เพราะในกิจกรรมเราพยายามอธิบายเป็นภาษาอังกฤษให้เค้ารู้ว่าอ๋อคำนี้ใช้ศัพท์อันนี้

แนนเอาวิธีการมาจาก website นี้นะ ดูสิมีคำศัพท์มากมายเลย

http://www.biggerbolderbaking.com/how-to-make-condensed-milk/

แล้วเดี๋ยวเร็ว ๆนี้เรามาทำไอศรีมโฮมเมดกัน โดยไม่ต้องใช้เครื่องทำไอศครีมเลย ส่วนก็ผสมก็งายและน้อยมากหนึ่งในนั้นคือเจ้านมข้นนี่ละ

วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2559

มาทำบะหมี่ไข่กันเถอะ

ส่วนผสม






จริงๆ เป็นกิจกรรมที่ทำตั้งแต่ปิดเทอมแล้วแต่ไม่มีเวลาเอามาลงบล็อค กิจกรรมนี้คือทำบะหมี่ไข่ส่วนผสมมีดังนี้
ไข่ไก่ 3 ฟอง
           เกลือป่น
           น้ำปูนใส 70 กรัม
           แป้งขนมปัง 200 กรัม
           แป้งสาลีอเนกประสงค์ 120 กรัม
           แป้งมัน 40 กรัม
ส่วนวิธีทำแนนเอามาจากเว็ปนี้คะ
http://cooking.kapook.com/view111681.html

แนนไม่มีเครื่องรีดแป้งก็เลยใช้ rolling pin นวด เอานะคะมันจะไม่สวยไม่บางเท่าของที่ร้านแต่ว่าอยากลองทำเอง สนุกดีคะลองทำเองก่อนถ้าติดใจค่อยซื้อเครื่องรีดเเป้งก็ได้

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ถึงลูกเราจะไม่ได้เรียนโปรแกรมEP หรือเรียนโรงเรียนนานาชาติ เราก็เสริมลูกเองได้นะ

เราเชื่อว่าไม่มีพ่อแม่คนไหนปฏิเสธว่าไม่อยากให้ลูกได้ทักษะภาษาอังกฤษ ซึงโรงเรียนสมัยนี้ก็มีมากมายที่ทั้งเป็นโปรแกรมภาคภาษาอังกฤษ เปิดเป็นหลักสูตรนานาชาติ แต่ว่าในความคิดของแม่แนน ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ถ้าในที่นั้น ๆ ไม่มาตรฐานพอแล้วมาเปิดเป็นภาคภาษาอังกฤษ ขอแค่เอาคนที่ชื่อว่าต่างขาติมาสอนซึ่งบางที โหภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงกว่าคนไทยอย่างเราเสียอีก เพราะว่าอะไรเพราะว่าเค้าเป็นชาวต่างชาติที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่นั้นไง  ดังนั้นต้องเลือกดีดีนะคะ ไม่เช่นนั้นอาจจะเสียเงินแพงกว่าโดยที่ประโยชน์ที่ได้มาไม่คุ้มกัน

แต่ที่ที่มาตรฐานที่มีชื่อก็แพงมากคะ ครอบครัวของเราเองก็ไม่ไหวที่จะส่งให้ลูกเรียนในโรงเรียนนานาชาติ เพราะว่าเรายังต้องเก็บเงินไว้สำรองให้เค้าเรียนสูงในระดับที่สูงขึ้น ๆ อีก และอีกประเด็นคือ บ้านเราอยู่ต่างจังหวัด โรงเรียนนานาชาติทีน่าเชือถือก็ไกลเหลือเกิน

เมื่อเรารู้ละว่ายังไงมันค่อนข้างเป็นไปได้ยากมาก งั้นเราทำไงละที่จะช่วยลูกให้มีทักษะ ในวิชาอื่นแต่สอนเป็นภาษาอังกฤษ เช่น วิชาเลข เรียนแบบเป็นภาษาอังกฤษ แม่แนนต้องส่งเรียนพิเศษอย่างเดียวเลยเหรอ

คำตอบของแม่แนน ไม่คะ ตายพอดีถ้าแม่แนนต้องส่งเรียนหมดทุกสิ่งอย่างกระเป๋าอิชั้น แบนพอดี อีกอย่างเสียเวลาเดินทางบ้านไกล เราต้องนึกถึงตัวเองก่อน เลือกพึ่งตัวเองด้วยคะโชคดีมากที่เดี๋ยวนี้มีสื่อให้เราเรียนก่อนสอนลูกได้มากมาย ทั้งใน youtube หรือหนังสือต่างประเทศที่เหมาะกับระดับชั้นของลูก แล้วศัพท์ก็ไม่ได้ยากอะไร แม่สอนได้เพราะว่าเนื้อหาในระดับชั้นเดียวกันก็เรียนเหมือนกัน แต่ก็อีก จะต้องมีบางคนบอกแน่ ๆ ว่าโอยชั้นไม่เก่งภาษาอังกฤษจะมาสอนอะไรเดี่ยวสอนผิด  แนนว่าไม่มีอะไรเกินความสามารถคะเราเรียนรู้ก่อนลูกได้  คิดอีนัยดีซะอีกถือว่าหาความรู้เข้าตัว

แม่แนนสอนมาตลอดวันละนิดวันละหน่อยหน่อยจริงๆ นะคะ เพราะว่าลูกhappyที่ไม่เกินครึ่ง ชม.(เป็นบุญมากที่จะให้แม่สอน 555)  ที่จะนั่งเรียนกับแนน แต่ว่าเราตั้งเป้าไว้ว่าเราจะสอนลูกให้ได้วันละชั่วโมงดังนั้น เค้าจะนั่งเรียนอะไม่เกินครึ่งชั่วโมงอีกครึ่งชั่วโมงที่ตั้งเป้าอาจจะเป็นไปพักก่อนเดี่ยวกลับมาเรียนใหม่หรือ อ่านให้ฟังก่อนนอน ผลลัพธ์ก็โอเค
นะคะไม่ถึงกับเลิศเลอเพอเฟค แต่ว่าดีกว่าเราไม่ได้ให้เค้าเลย พยายามทำทุกวันมนุษย์แม่อย่างเราประเมินลูกเองได้ว่าวันนี้พร้อมหรือไม่เรียนได้แค่ไหน บางวันมันก็ต้องมีอู้กันบ้างละเนาะ

วิชาที่ใช้สอนตลอดคือ เลข คะแม่แนนใช้เล่มนี้ ซึ่งโอเคเลยเนื้อหาข้างในไม่ยากและเป็นเรื่องเดียวกับที่ลูกเราเรียนตอนนี้ สบาย เราเทียบดูได้นี่
แนนซื้อทีร้านหนังสือ ซีเอ็ดคะ  แต่ละสาขาอาจจะมีหรือไม่มีไม่แน่ใจ แต่ว่ามีหลายเล่มลองเลือกดูเอาที่ถูกใจเราเราอ่านเข้าใจนั้นละ




เนื้อหาข้างในก็เหมือนอ่านการ์ตูนให้ฟัง แล้วเราก็ฝึกพูดกับลูกได้สบาย ไม่ใช่เรื่องยาก
(คิดอีกแบบนะเราได้เรียนรู้พร้อมลูกว่าการบวกลบ หรือวิธีการพูดในโจทย์เลขเค้ามีวิธีพูดยังไงบ้าง)


                                    เค้าจะอธิบายเป้นภาพแล้วสีสวยเด็กชอบ
(ภาพทั้งหมดถ่ายเองจากกล้องมือถือนะคะไม่ได้นำมาจากอินเตอร์เน็ต)

ส่วนวิชาอื่นๆ เหมือนอ่านให้ฟังเสียมากกว่า พวกวิทยาศาสตร์ มันก็เหมือนเราอ่านหนังสือให้เค้าฟัง เพราะว่าเรื่องของเด็กวัยนีี้ก็เป็นเรื่องสิ่งรอบ ๆตัว ยังไม่ต้องซีเรียส

ไม่มีอะไรที่มนุษย์แม่ทำไม่ได้ แล้วไว้เดี่ยวจะมาเล่าเรื่องสอน phonic ให้ฟังนะจ๊ะ

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558

การย้ายโรงเรียนกับทักษะอ่านเขียน

เดิมทีโชกุนเป็นเด็กที่ม่าม๊าสอนหนังสือเองสอนประสบการณ์นั้นนี่เองอยู่บ้านระยะนึง เพราะว่าม่าม๊าคิดว่าอยากจะใกล้ชิดลูกอยากให้พร้อมก่อนเเล้วค่อยไปโรงเรียน ม่าม๊าก็คิดว่าวิธีที่ม่าม๊าทำโอเคนะ เพราะว่าเมื่อถึงเวลาโชกุนอยากไปเองก็ไปแบบง่ายมากไม่มีการร้องห่อร้องไห้เลยสักครั้ง จนวันนึงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนคือการย้ายมาเรียนโรงเรียนที่เรียกว่าน่าจะแนวเน้นวิชาการซะด้วยซ้ำตอนแรกม่าม๊ากังวลมากถึงมากที่สุดโอย ตายแน่ ๆลูกเราไม่ได้เรียนมาแนวอ่านเขียนจะทรมานมากไหม
ลูกเราจะเป็นไงนี่ ไม่เคยเรียนโรงเรียนที่ นักเรียนในห้องเยอะขนาดนี้มาก่อนจะรอดมั้ยนี่ สารพัดสารเพในความกังวล แต่แล้วลหายสิ่งก็คลี่คลาย จากที่กังวลว่าลูกจะเรียนไม่ได้ลูกจะรอดไหม
ปรากฏว่าลูกเรียนรู้เรื่องผลสอบออกมามีสองคะแนนเท่านั้นคือ เกือบเต็มกับเต็ม ทั้งทีม่าม๊าก็ไม่ได้ให้เรียนพิเศษ มีแต่ม่าม๊าสอนการบ้านเองแล้วจะติวเองทบทวนวันละข้อสองข้อเท่านั้น เลยคิดเอาว่าถ้าเด็กเค้ามีความสุขความพร้อมด้านต่างๆ จะตามมาเอง
 เรื่องเพื่อนเรื่องสังคมไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงจากเรื่องนี้ทำให้ม่าม๊าได้เรียนรู้อีกสิ่งหนึ่งก็คือ
ถ้าเราเลี้ยงลูกมาอย่างใกล้ชิดถูกทางลูกเราจะปรับตัวง่าย และไม่มีปัญหาในการปรับตัว



















ส่วนเรื่องอ่านเขียนเมื่อวัยพร้อมที่จะอ่านเขียนเด็กก็เริ่มสนใจอยากรู้ให้เราช่วยสะกดเองทุกอย่างอย่าฝืนธรรมชาติพัฒนาการของวัยอะไรๆมันก็ง่ายจริงๆ ตอนนี้เริ่มอ่านได้เยอะขึ้นอ่านเป็นประโยคได้ หนังสือที่แนะนำให้ซื้อมาสอนอ่านกับลูกเลยนะคะ รูปด้านล่างคะ อ่านไปวันละนิดจิตแจ่มใสทั้งแม่และลูก
หาซื้อได้ตามร้านขายหนังสือทั่วไป ราคาถูกแยกสระชัดเจน ลองใช้สอนลูกคะแค่วันละหน้าก็พอคะ

วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557

sew a pillowcase by SHOGUN

กิจกรรมเย็บปลอกหมอน
เป็นกิจกรรมง่าย ๆ มีขั้นมีตอนให้เรียนรู้ สั้น ๆ และได้ฝึกใช้สมาธิในการทำ
สิ่งที่ต้องเตรียม
ผ้าลายน่ารัก ๆ อาจจะให้เจ้าตัวมีส่วนร่วมในการเลือกก็ดีนะคะ แต่ว่าอันนี้พอดีแม่ทำผ้าม่านเหลือเลยเสนอไอเดียกันว่ามาทำปลอกหมอนกันดีกว่า
คราวนี้เราก็ช่วยกันวัดขนาด เค้าก็จะเห็นขั้นตอนการทำ วัด ตัด และแม่ก็เตรียมรีดขอบ เพื่อให้เค้าเย็บได้ง่าย ๆ คราวนี้ก็สอนให้เย็บ ขั้นตอนนี้โชกุนชอบ ตั้งใจทำใจจดจ่อดี
กิจกรรมนี้ดีตรงที่ว่าใช้เวลาไม่นาน และของเค้าได้ใช้จริง ๆ และเหมือนเดิมเราก็เติมภาษาอังกฤษไปในกิจกรรมเล็กๆน้อยๆ ถ้าเราไม่มีไอเดียก็ดู ๆใน website มาก่อน
 แม่แนนใช้อันนี้  http://www.kids-sewing-projects.com/how-to-sew-a-pillowcase.html
อย่างน้อย ๆ กิจกรรมนี้ได้แน่ ๆ สามคำ rectangle, sew, pillowcase



วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2557

After school activity~almond slice cookie bar

After school activity by Mama nan

หลังจากที่ห่างหายไปนานแสนนาน เพราะว่าด้วยความที่ยุ่งกันทั้งแม่และลูกไมได้อับเดทบล็อคเรามาจะเป็นปีแล้วมั้งนี งานมาม๊าก็วุ่นแถมตารางโชกุนก็ยุ่ง  เรากลับมาประเดิมด้วยกิจกรรมหลังเลิกเรียนด้วย ทำอาหารง่ายๆ กันดีกว่าวันนี้เรามาเริ่มด้วย almond slice cookie bar เพราะว่าซื้อกินนั้นแสนแพงม่าม๊าลองมาอ่านวิธีการทำมันไม่เห็นจะมีอะไรยาก เรามาลุยกันเองเลยดีกว่า

ส่วนผสมทั้งหมด 







แป้งเค้ก ในส่วนนี้ม่าม๊าเลือกใช้แป้งที่ทำมาจากข้าวหอมมะลิคนไทย ที่เค้านำมาดัดแปลงเป็นแป้งใช้แทนแป้งสาลีแป้งเค้ก สำหรับเด็กที่แป้งแป้งสาลี อันนี้นาจะเป็นตัวเลือกที่ดี ที่สำคัญของคนไทย ม่าม๊าแนนซื้อมาจากที่ร้าน golden place คะ

อัลมอนล์สไลน์  ประมาณ ครึ่งถ้วย

เนยเค็ม 75  กรัม

น้ำตาล 75 กรัม (ถ้าชอบหวานน้อยก็ลดลงก็ได้นะคะ)

ผงวนิลา  1 ชช

ไข่ขาว 1 ฟอง

ขั้นตอนการทำ

ร่อนแป้งและผงวนิลารวมกัน 


 แล้วเราก็ละลายเนยและน้ำตาลเข้าด้วยกัน ด้วยไฟกลางๆ  พอละลายหมดยกลงรอให้อุ่น ๆ







เทไข่ใส่เนยกับน้ำตาลทีเราละลายเเล้ว คน ๆ ให้เข้ากัน ใส่แป้ง ใส่อัลมอนล์หลังจากนั้นพักในตู้เย็นสักพัก









แล้วเอากระดาษไขรองทีถาดทาเนยเล็กน้อยแล้วก็ปาดแป้งที่เราเตรียมเสร็จแล้วให้บาง ๆ หลังจากนั้นเข้าเตาอบ 



รอประมาณ สิบห้าถึงยี่สิบนาทีที่ความร้อน 150 c รีบเอาออกมาและแคะออกจากกระดาษแล้วนำมาตัดในช่วงเวลานี้เพราะว่ายังนิ่มอยู่เราจะตัดแบ่งได้ ผึ่งไว้สักพักรอเย็นจะได้อัลมอนล์สไลน์กรอบ ๆกรุบ ๆ แบบโฮมเมด ด้วยฝีมือเราเอง เย้ อรอย ทำเองได้ ไม่ต้องซื้อแพง ๆ 

:) แนะนำให้สอนลูกเป็นภาษาอังกฤษไปด้วยในขั้นตอนและบอกถึงส่วนผสมให้ลูกฟัง เค้าจะซึมซับ ๆไปเองว่าอะไรคืออะไรโดยที่ผ่านกิจกรรมสนุก ๆจำไม่ได้วันนี้วันหน้าก็จำได้เองถ้าเราทำกิจกรรมบ่อยๆ