วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555

จริง ๆ เรา ก็คนปกติไม่ได้บ้าหรือว่าสวนสังคมอะไรนี่คะ

จริงๆ ตั้งเเต่ตัดสินใจจัดการเรียนการสอนลูก เอง ก็มั่นใจมากอยู่เเล้วว่า คงไม่พ้นขี้ปาก จากด้วยความเป็นห่วงของผูัหวังดี(รึเปล่า)ในสังคม บางทีบางคนไม่เคยเจอลูกเราด้วยซ้ำไปกลับเอาลูกเราไปเม้าท์ ได้ ขอบอกว่าเก่งมาก สามารถเม้าท์ได้

สิ่งที่ม่าม๊าต้องเจอนะลูก
ครอบครัวนี้มันบ้า มันสวนกระเเสสังคม แปลกแยก อีกหน่อยลูกอยู่ในสังคมไม่ได้ ไม่มีใครคบ ลูกกลัวคน เอาง่าย บ้าไปเลยดีกว่าคำเดียว จะได้เข้าใจไปเลย 555

ทุก ๆ ครั้งที่ได้ยิน รู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก สิ่งที่เราทำไม่ได้ผิดกฏหมายแต่อย่างใด ไม่ได้ทำให้ผู้ใดเดือดร้อน ไม่ได้ขอเศษบุญใครในการดำรงชีวิต ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร แล้ว ทำไมถึงพูดนินทาว่าร้ายกันมากมายขนาดนี้ ว่าเราสองคนพ่อแม่เราจะไม่อะไรเล้ย แต่ว่าเอาเด็กน้อยสามสี่ขวบ ไปเป็นขี้ปากด้วย บอกว่า  เด็กคนนี้กลัวคน แต่ว่าตัวคนพูดไม่เคยเจอลูกเเม้แต่ครั้งเดียวแต่ว่าสรุปเอาเองจากการดูว่าเราไม่ได้ให้ไปโรงเรียนเค้าต้องไม่เคยเจอคนอื่น (เฮ้อ ก่อนจะพูดไรน่าจะดูว่าเค้าทำอะไรกับลูกเค้าบ้างนะคะ) หรือว่า เด็กคนนี้อยู่แต่กับพ่อแม่อีกหน่อยเล่นอะไรก็แพ้ไม่เป็น

ขอบอกตรงนี้เลยนะคะ ขอขอบคุณมากในความหวังดีของท่าน ๆ ทั้งหลาย เราเลี้ยงลูกเราเราเองก็พาไปเจอคนหลากหลายมากมายคะ ไม่ได้เก็บลูกไว้ห้ามให้เจอคน ลูกเราไปเข้าคอสต่าง ๆ ที่เจอเด็ก ๆ พาไปเจอคนในหลากหลายสังคมคะ เช่น พ่อเค้าตีกอล์ฟ เค้าก็ต้องไปเจอสังคมคนตีกอล์ฟกับพ่อเค้า แม่ชอบ ไปเจอเพื่อน เค้าก็ได้ไปเจอเพื่อนในกลุ่มของแม่ที่แม่พอจะมีกำลังไปมาหาสู่ เป็นต้น  เค้าคือคนปกติ คะ เค้าเจอคนเยอะหลากหลายอายุ เจอสิ่งที่เรียกว่าสังคมจริงๆ ไม่ใช่สังคมที่ต้องอายุเท่ากันเป๊ะในหนึ่งห้องแล้วมีคนน้ำทีมยืนอยู่หน้าห้องอะคะ หรือว่าที่เจอๆ ทุกวันนี้เค้่าไม่ใช่คน ต้องเจอคนเฉพาะการไปโรงเรียนเท่านั้น

ส่วนเรื่องแพ้ชนะ บอกตรง ๆ เราไม่เคยเล่นเกมอะไรแพ้ชนะกับลูกเราเลยมีแต่เล่นด้วยกัน คำว่าเเย่งกัน เช่น แย่งกันกิน ยังไม่เคยพูดเลย มีแต่แบ่งกันนะลูก แข่งอะไรไร้สาระเราก็ไม่เคยทำเช่น กินข้าวแข่งกัน เพราะว่าไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเเข่ง กินต้องกินเร็ว ด้วยเหรอแล้วต้องกินให้หมดด้วยเหรอถ้าอิ่มเเล้ว เลยงงว่าลูกจะแพ้ไม่เป็นได้อย่างไร เรื่องเล่นเกมกันเเล้วอยากแต่ชนะน่าจะเป็นตามวัยที่อยากจะชนะ แต่ว่าเราบอกตรง ๆเกมอะไรที่มันต้องชนะต้องแพ้นี่แทบไม่ได้เล่นเลย มีแต่หาอะไรที่มาเล่นด้วยกันช่วยกันทำ  แต่ว่าส่วนเกมที่มันมีแพ้ชนะจริง ๆ เช่น เกมในกีฬา เราเล่นกันเค้าก็เข้าใจว่า คราวนี้ชนะคือถึงคราวของอีกคนเล่น การที่บางอย่าง เค้าไม่เข้าใจว่าแพ้ชนะคืออะไรเราคนแก่น่าจะไปตัดสินเค้าเอง จริงๆ เค้าน่าจะแค่อยากจะเล่นๆ อยากจะเอาอีกๆ ไม่สิ้นสุดมากกว่า เลยว่าเค้าเเล้วว่าเเพ้ไม่ได้ บางทีบางเรื่องมันก็ต้องอาศัยเวลาค่อย ๆ เรียนรู้กันไปใจเย็น ๆ (คำเดิม) ที่ใช้มาเเทบทุกบทความ ใจร้อนไปก็เท่านั้น

เมื่อเราตัดสินใจที่จะสอนลูกเองดูแลลูกเอง นั้นหมายความว่า เราต้องดูว่ามันจะมีรูรั่วตรงไหน เราต้องพยายามอุดรูนั้นอยู่เเล้วคะ

เราสอนลูกเองไม่ได้ต้องการให้ลูกเป็นเลิศที่สุดในสังคมในโลกนี้ แต่ว่าเราแค่ต้องการให้เค้าพัฒนาไปตามขั้นพัฒนาการที่สมควรเป็นและเค้าได้มีโอกาสเป็นโอกาสทำ เราสองคนสอนลูกไม่เคยใช้คำพูดว่าหัดทำสิ หัดนั้นสิหัดนี่สิ รู้จักฝึกสิ ไม่เคยใช้เลยมีแต่ ทำเเล้วชวนมาทำด้วยกันพอเค้าสนใจเค้าก็จะมาทำตามเอง เค้าได้มีโอกาสใช้คำถามมากมายถามกับพ่อแม่ในสิ่งที่เค้่าสงสัย เราก็มีหน้าที่หาคำตอบไปทีละเรื่องตามความสงสัยลูกบางเรื่องพ่อแม่ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรไม่ใช้ว่าต้องถามทันทีต้องรู้ทันที บางเรื่องมันไม่รู้จริง ๆ ก็ต้องขอเวลาไปค้นก่อนเเล้วจะมาอธิบายนะลูก พออีกวัยนึงเค้าอ่านหนังสือออกก็ต้องกระตุ้นให้เค้าไปค้นกับเรา ก็เท่านั้นเอง

บ้านเราไม่เน้นเร่งรีบเน้นสบายๆ ตามวัย ที่สมควรจะเป็น และ อยู่ในสังคมปกติ สังคมจริง ๆ เท่านั้นเอง
อย่าเอาเด็กไปว่าลับหลังอย่างนี้เลยสงสารเค้าจัง ยังไร้เดียงสาอยู่เลยรู้จักก็ไม่เคยรู้จัก  นี่ละน้าเค้าถึงว่าห้ามอะไรห้ามได้ห้ามความคิดคนไม่ได้  เขียนมานี่ก็แค่ปลง ๆ รึเปล่า เพราะว่าไม่เคยนั่งอธิบายให้ใครฟังมีแต่ทำๆ ไป วันนึงคนอื่นเค้าคงเข้าใจและเห็นเองว่าเราทำอะไรอยู่ แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ เราได้จากการที่เรามีลูก คือ ความอดทน อย่างแท้จริง ยิ่งมาทำโฮมสคูลยิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้ ว่า โฮ้โหนี่ขนาดเราไม่ได้ทำอะไรผิดกฏหมายอะไรนะนี่ ก็พยายามทำตัวเป็นประโยชน์ในสังคมนะยังสู้อุตสาห์ ได้รับความปรารถนาดีมากมายขนาดนี้ บางคนทำหน้าตาแอนตี้ซะ อย่างกับเราไปโฮมสคูลลูกเค้า เราก็ทำกับลูกเรานะทำไมว่ากันซะอย่างกับเราไปดึงลูกเค้ามาสอนเอง แปลกจริงมนุษย์ พอเห็นคนอื่นทำอะไรไม่มีตนเองก็ผิดหมด  ทำไมเราไม่เห็นจะแอนตี้คุณเลยส่งไปโรงเรียน เราไม่ส่งไปเวลานี้ ก็เเค่เรายังมีความสุขและลูกก็ยังมีความสุข ที่จะเรียนรู้แบบนี้  ระบบโฮมสคูลไม่เหมาะกับลูกคุณ ๆ แต่ว่าระบบโรงเรียนแค่ไม่เหมาะกับลูกเราเเล้วเราเลือกจะทำเองจัดการเรียนการสอนเองมันผิดตรงไหนนี่ !!!!!!!   ไม่ใช่โรงเรียนไม่ดี โรงเรียนดี แต่ว่ายังไม่เหมาะกับลูกเราไม่เหมาะกับครอบคัวเราเท่านั้นเอง เราเลือกในสิ่งทีเหมาะกับเราคะ

แต่ว่าขอถามหน่อยว่า มันผิดตรงไหนนี่ที่ครอบครัวเราเลือกส่งลูกไปโรงเรียนในอายุที่มากกว่าอายุตามาตรฐานโรงเรียนอนุบาล เนี่ย คือ มันเป็นเครื่องตัดสินแล้วเหรอว่า ลูกจะต้อง ล้มเหลวในการดำรงชีวิตในสังคม อย่าเพิ่งตีตราเด็กขนาดนั้นดีกว่ามั้ยคะ มีสติหน่อย การศึกษาภาคอนุบาลก็ไม่ใช่ภาคบังคับ ประเทศหลาย ๆ ประเทศส่งเสริมให้เด็กแรกเกิดถึงหกขวบอยู่กับครอบครัวก่อนให้ขีวิตวัยเด็กพ่อแม่ได้มีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้ของลูก  การที่ตำหนิมาแบบนี้มันแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะ และ ความไร้สติจังเลยของผู้ที่ว่า  และเลวร้ายมากที่สุดคือการเอาเด็กที่ไม่รู้เรื่องและคุณก็ไม่เคยสัมผัสไม่เคยเจอเค้าไปว่า  บอกตรง ๆ ใจร้ายจัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น